กล่องไฟแสดงข้อมูลประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป แล้อุปัตตะก่า และสงกรานต์ 2 แผ่นดิน
ประเพณีสงกรานต์ ๒ แผ่นดิน ไทย เมียนมาร์ เป็นการสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามระหว่างประชาชนสองผั่งริมแม่น้ำเมย เล่นน้ำสงกรานต์ร่วมกันแบบมิตรภาพ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น การทำบุญในวันสงกรานต์ การขนทรายเข้าวัด สรงน้ำพระ
และการประกวดเทพีสงกรานต์ รวมทั้งจัดขบวนแห่ของแต่ละชุมชนและชนเผ่าต่างๆ
ที่มีความหลากหลายของเมืองหน้าด่านแม่สอด
ประเพณีกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ของจังหวัดตาก เป็นงานประเพณีที่นำหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ภูมิปัญญาชาวบ้าน และงานศิลปวัฒนธรรม มาหล่อหลอมรวมกันจนเกิดเป็นประเพณียิ่งใหญ่ และมีหนึ่งเดียวในโลก โดยนำเอากะลามะพร้าวที่เหลือใช้มาขัดล้างและตกแต่งให้สวยงาม ใส่ฝ้ายดิบฟั่นเป็นรูปตีนกา และหลอมเทียนขึ้ผึ้งเทลงในกะลา แล้วนำไปจุดไฟลอยในแม่น้ำปิง เพื่อขอขมาต่อพระแม่คงคา ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง กะลานับ ๑๐๐๐ ใบ ที่ล่องลอยอยู่ในกระแสน้ำยามค่ำคืน ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องน้ำ จึงเป็นที่มาของประเพณีกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง
แล้อุปัตตะก่า เป็นประเพณีใส่บาตรที่ทำเฉพาะช่วงที่เข้าพรรษา เป็นเวลา ๓ เดือน และจะใส่กันเฉพาะวันโกนเท่านั้น ผู้ที่จะร่วมขบวนแล้อุปัตตะก่า จะต้องนุ่งขาว ห่มขาว และอยู่ในศีลเป็นเวลา ๓ เดือน แล้อุปัตตะก่า จะเดินไปรอบๆ ตัวเมือง นำหน้าด้วยเสียงค้อนและระฆัง เมื่อชาวบ้านได้ยินเสียงนี้ก็จะเตรียมตัวออกมายืนหน้าบ้าน เพื่อเอาสิ่งของ จะเน้นเป็นของแห้ง เช่น ดอกไม้ ขนม อาหารแห้งและข้าวสารที่เตรียมไว้ใส่ลงไปบนกระจาด
ที่คนถือศีลหาบมา ส่วนสิ่งของที่ได้จากชาวบ้านก็จะนำมาขึ้นหิ้งถวายพระในเช้าของวันพระ และพระสงฆ์ก็จะได้นำมาใช้ในช่วงอยู่พรรษาที่วัดเป็นเวลา ๓ เดือน แล้อุปัตตะก่าไม่ได้ทำกันทุกวัด จะมีอยู่แค่วัดเดียวคือ วัดเงี้ยวหรือวัดแม่ซอดหน้าด่านเท่านั้น